วิธ๊ใช้เกลือฆ่าแบคทีเรียและเชื้อโรค

สวัสดีครับ! การใช้เกลือเพื่อฆ่าแบคทีเรียและเชื้อโรคต้องอาศัยความเข้มข้นของเกลือที่สูงพอสมควร เพื่อให้เกิดกลไกการทำงานที่ผมได้อธิบายไปก่อนหน้านี้ครับ นี่คือแนวทางการใช้งานเกลือเพื่อวัตถุประสงค์นี้ในสถานการณ์ต่างๆ:

1. สำหรับการถนอมอาหาร:

  • การดอง (Pickling): สร้างน้ำเกลือที่มีความเข้มข้นสูง โดยทั่วไปจะใช้เกลือประมาณ 5-10% ของน้ำหนักอาหาร หรือตามสูตรเฉพาะของการดอง ผักหรือเนื้อสัตว์จะถูกแช่หรือหมักในน้ำเกลือนี้เป็นระยะเวลาหนึ่ง ความเข้มข้นของเกลือจะดึงน้ำออกจากเซลล์ของแบคทีเรียและยับยั้งการเจริญเติบโต
  • การหมักเกลือ (Salting/Curing): ใช้เกลือปริมาณมากคลุกเคล้ากับอาหารโดยตรง เช่น ปลาเค็ม เนื้อเค็ม เกลือจะดึงน้ำออกจากเนื้อสัตว์และสร้างสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย
  • การทำน้ำเกลือเข้มข้น (Brining): แช่อาหารในน้ำเกลือเข้มข้นก่อนปรุงอาหาร เพื่อเพิ่มรสชาติและความชุ่มชื้น และยังช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียในระดับหนึ่ง

2. สำหรับการทำความสะอาดบาดแผลเล็กน้อย:

  • น้ำเกลือล้างแผล: ผสมเกลือแกง (เกลือบริโภค) ที่สะอาดในน้ำต้มสุกที่เย็นแล้ว ความเข้มข้นที่แนะนำโดยทั่วไปคือประมาณ 0.9% (isotonic saline) หรืออาจจะเข้มข้นกว่าเล็กน้อย (hypertonic saline) สำหรับบาดแผลที่ไม่รุนแรง ใช้สำลีสะอาดชุบน้ำเกลือแล้วเช็ดทำความสะอาดบาดแผลเบาๆ น้ำเกลือจะช่วยชะล้างสิ่งสกปรกและลดจำนวนเชื้อโรค
  • ข้อควรระวัง: สำหรับบาดแผลที่ลึก รุนแรง หรือมีเลือดออกมาก ควรปรึกษาแพทย์ ไม่ควรใช้น้ำเกลือรักษาเอง

3. สำหรับการกลั้วคอ:

  • น้ำเกลือกลั้วคอ: ผสมเกลือแกงประมาณ 1/4 ถึง 1/2 ช้อนชา ในน้ำอุ่น 1 แก้ว คนให้เกลือละลาย ใช้กลั้วคอประมาณ 30 วินาที แล้วบ้วนทิ้ง ทำซ้ำวันละ 2-3 ครั้ง น้ำเกลือช่วยลดอาการบวม อักเสบ และอาจช่วยลดจำนวนเชื้อโรคในลำคอ

4. สำหรับการทำความสะอาดพื้นผิว (จำกัดประสิทธิภาพ):

  • น้ำเกลือทำความสะอาด: น้ำเกลือเข้มข้นสามารถใช้เช็ดทำความสะอาดพื้นผิวบางอย่างได้ เช่น เขียง หรือภาชนะ แต่ประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อโรคอาจไม่สูงเท่าสารฆ่าเชื้อโรคโดยเฉพาะ
  • ข้อควรระวัง: ควรล้างออกด้วยน้ำสะอาดหลังเช็ดด้วยน้ำเกลือ

ข้อสำคัญที่ต้องจำ:

  • ความเข้มข้น: ปริมาณเกลือที่ใช้ต้องสูงพอสมควรเพื่อให้มีฤทธิ์ในการฆ่าหรือยับยั้งแบคทีเรียได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • ระยะเวลาสัมผัส: เชื้อโรคต้องสัมผัสกับน้ำเกลือที่มีความเข้มข้นนั้นเป็นระยะเวลาหนึ่งเพื่อให้เกิดผล
  • ประเภทของเชื้อโรค: เกลืออาจมีประสิทธิภาพในการฆ่าแบคทีเรียบางชนิดได้ดีกว่าชนิดอื่นๆ และอาจมีผลน้อยต่อไวรัสหรือเชื้อรา
  • ความสะอาดของเกลือและน้ำ: ควรใช้เกลือที่สะอาดและน้ำที่สะอาด (เช่น น้ำต้มสุกที่เย็นแล้วสำหรับล้างแผล) เพื่อป้องกันการปนเปื้อนเพิ่มเติม
  • ไม่ใช่สารฆ่าเชื้อโรคหลัก: แม้ว่าเกลือจะมีฤทธิ์ในการยับยั้งและฆ่าเชื้อโรคได้ แต่โดยทั่วไปแล้วไม่ได้มีประสิทธิภาพเท่าสารฆ่าเชื้อโรคเฉพาะทาง เช่น แอลกอฮอล์ น้ำยาฆ่าเชื้อ หรือยาปฏิชีวนะ

ดังนั้น การใช้เกลือเพื่อฆ่าแบคทีเรียและเชื้อโรคจึงมักจะเน้นไปที่การถนอมอาหารและการดูแลสุขอนามัยเบื้องต้น สำหรับการฆ่าเชื้อโรคในสถานการณ์ที่ต้องการความสะอาดสูง ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อโรคที่มีประสิทธิภาพและได้รับการรับรองครับ

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ก้อนเกลือแร่ สำหรับปศุสัตว์

“ ก้อนเกลือแร่ ” สำหรับปศุสัตว์ (เช่น วัว ควาย แพะ แกะ) เป็นผลิตภัณฑ์ที่รวมเอา โซเดียมคลอไรด์ (NaCl) และแร่ธาตุจำเป็นอื่น ๆ เข้าด้วยกันในรู...